ประวัติบาสเกตบอล

       

ประวัติกีฬาบาสเกตบอล กีฬาของชาวอเมริกัน มีจุดเริ่มต้นเป็นมาอย่างไร และบาสเกตบอลกฎกติการการเล่นอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ 

          กีฬาบาสเกตบอล นับว่าเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่เป็นกีฬายอดนิยมของคนไทย มีสหรัฐอเมริกาเป็นเเจ้าของการแข่งขันกีฬานี้ อย่างไรก็ดี หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า กีฬาที่มีเอกลักษณ์คือการชู้ตลูกบอลลงห่วง มันมีความเป็นมาอย่างไร ใครเป็นคนคิด วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ

ประวัติบาสเกตบอล


          การถือกำเนิดขึ้นของกีฬาบาสเกตบอลเกิดขึ้นที่เมืองสปริงฟิล รัฐแมสซาชูเซส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434) โดย ดร.เจมส์ ไนสมิธ อาจารย์พละศึกษาของโรงเรียนคนงานคริสเตียน (ปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสปริงฟีล) ต้องการให้มีการแข่งขันกีฬาในร่มช่วงฤดูหนาว พร้อมกับกำหนดกติกา 5 ข้อ สำหรับการเล่น 

กติกาบาสเกตบอล          

1. ต้องใช้มือเล่นลูกบอล

 2. แต่ห้ามถือบอลวิ่ง

          
3. ผู้เล่นสามารถยืนได้ทุกพื้นที่ของสนาม

         
 4. ผู้เล่นห้ามปะทะหรือถูกตัวกัน

          
 5. จะมีห่วงติดตั้งไว้เหนือพื้นสนามกับเส้นเขตสนาม สูงจากพื้นประมาณ 10 ฟุต


          ต่อมาทาง ดร.ไนสมิธ ได้กำหนดหลักการเล่นเพิ่มเติม จำนวน 13 ข้อ ซึ่งกลายเป็นกติกาพื้นฐานของบาสเกตบอลในปัจจุบัน ได้แก่

           1. สามารถโยนลูกบอลไปที่อื่นด้วยมือทั้ง 2 ข้างหรือมือเดียว

          
 2. สามารถตีลูกบอลได้ทั้งมือเดียวหรือ 2 มือ แต่ห้ามใช้กำปั้นทุบบอล

          
 3. ห้ามถือลูกบอลวิ่ง

          
 4. ต้องถือลูกบอลด้วยมือ แขน หรือลำตัว แต่ห้ามดึงลูกบอล

          
 5. ห้ามดัน ผลัก ฝ่ายตรงข้าม

          
 6. การกระทำตามข้อ 3-5 ถือว่าเป็นการฟาล์ว

          
 7. หากผู้เล่นทีมเดียวฟาล์วติดต่อกัน 3 ครั้ง ให้นับคะแนนแก่ฝ่ายตรงข้าม

          
 8. นับคะแนนเมื่อลูกบอลเข้าห่วงไปแล้ว หรือยังค้างที่ก้านห่วง แต่ผู้เล่นฝ่ายป้องกันไปสัมผัสหรือกระทบประตู ก็นับคะแนนให้เช่นกัน

          
 9. หากลูกบอลออกนอกสนามให้ส่งบอลเข้ามาเล่นในจุดที่บอลออก

          
 10. กรรมการผู้ร่วมตัดสิน (Umpire) มีหน้าที่คอยจดบันทึกการฟาวล์ และคอยช่วยผู้ตัดสินในด้านสถิติต่าง ๆ ทำให้ตัดสินได้ถูกต้องมากขึ้น

          
 11. ผู้ตัดสิน (referee) มีหน้าที่ตัดสินในสนามในจังหวะต่าง ๆ, จับเวลา, ให้คะแนนเมื่อเกิดการทำแต้ม, บันทึกคะแนน ฯลฯ

          
 12. การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 5 คะแนน โดยมีเวลาพักครึ่ง 5 นาที

          
 13. เมื่อจบการแข่งขัน ฝ่ายใดทำแต้มได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าเสมอกัน ก็ต้องเล่นต่อจนกว่าจะมีฝ่ายใดทำแต้มได้



          นอกจากนี้      ดร.ไนสมิธ ยังเป็นผู้เริ่มผลักดันบาสเกตบอลให้เป็นกีฬาระดับมหาวิทยาลัย จนสามารถตั้งเป็นลีกระดับมหาวิทยาลัยได้ ในปี ค.ศ. 1938 (พ.ศ. 2481) ต่อมา ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) บาสเกตบอลเอ็นบีเอ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการแข่งขันระดับอาชีพที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน













กฎกติกาการเล่นและอุปกรณ์

    กฎและกติกาบาสเกตบอล 



 สนามที่ใช้ในการแข่งขัน

          มีขนาดทั้งหมด 28 คูณ 15 เมตร ขณะที่ในกรอบเขตโทษมีรัศมีเมื่อนับจากแป้นบาสยาว 6.25 เมตร





 ลูกบาสเกตบอล

          มีเส้นรอบวงประมาณ 30 นิ้ว (76 เซนติเมตร) มีน้ำนักประมาณ 1 ปอนด์ (600 กรัม)





 แป้นบาสเกตบอลและห่วง

          10 ฟุต (3.05 เมตร) เมื่อนับจากพื้นไปถึงขอบห่วง และตัวแป้นนี้จะถัดเข้ามาจากเส้นหลัง 4 ฟุต (1.2 เมตร)



 จำนวนผู้เล่น

          มีผู้เล่นฝั่งละ 5 คน ส่วนตัวสำรองสูงสุดทีมละ 7 คน ซึ่งการเปลี่ยนตัวนั้นสามารถเปลี่ยนตัวได้ไม่จำกัด โดยจะเปลี่ยนได้ในช่วงที่บอลตายเท่านั้น




 วิธีการและข้อบังคับในการเล่น

           ต้องเคลื่อนที่ลูกบอลไปข้างหน้าด้วยการเลี้ยงลูกด้วยมือข้างเดียว คือให้ลูกกระเด้งพื้นขณะที่วิ่ง และมือจะต้องอยู่เหนือลูกเท่านั้น หากอยู่ในองศาอื่นถือว่าเป็นการถือลูก นอกจากนี้ยังห้ามเตะหรือชกลูกบาสเกตบอลอีกด้วย

           หากนำบอลขึ้นมาอยู่ในแดนฝั่งตรงข้ามได้แล้ว ห้ามส่งลูกกลับเข้าแดนตัวเอง

           ภายใน 8 วินาทีที่ได้บอล ผู้เล่นจะต้องนำลูกเข้าสู่แดนฝ่ายตรงข้ามให้ได้ และต้องชู้ตภายใน 24 วินาที

           หากผู้เล่นคนใดคนหนึ่งฟาล์วรวม 5 ครั้งภายในเกม ผู้เล่นคนนั้นจะไม่สามารถเล่นเกมนั้นได้อีก ต้องออกจากสนาม เรียกว่า (foul out)



 เวลาที่ใช้ในการแข่งขัน

          แบ่งเป็น 4 ควอเตอร์ต่อเกม ควอเตอร์ละ 10-12 นาที แล้วแต่ประเภทของการแข่งขัน ขณะที่การแข่งขันในช่วงต่อเวลา จะมีความยาว 5 นาที ทั้งนี้ การจับเวลาของบาสเกตบอล จะหยุดเวลาเมื่อบอลตาย ดังนั้นการแข่งขันบาสเกตบอลจึงใช้เวลามากกว่า 50 นาทีต่อเกมการแข่งขัน



 การนับคะแนน

          หลักการเล่นที่สำคัญที่สุดของกีฬาบาสเกตบอล นั่นคือ การทำแต้มด้วยการโยนลูกบอลเข้าห่วงของคู่แข่งให้มากกว่า และพยายามป้องกันไม่ให้คู่แข่งโยนลูกบอลเข้าห่วงของตัวเอง โดยที่การโยนลูกบอลเข้าห่วงในพื้นที่นอกเขตโทษ จะได้ 3 คะแนน, ในเขตโทษได้ 2 คะแนน และจุดโทษได้ 1 คะแนน

ตำแหน่งผู้เล่น


  เซ็นเตอร์ (C) : มักเป็นผู้เล่นตัวสูงที่สุดในทีมและให้ดีต้องมีกล้ามเป็นมัดๆและมีน้ำหนักตัวมากอีกด้วย                           ใช้ความได้เปรียบของร่างกายทำแต้ม หรือ ป้องกัน บริเวณใต้ห่วง






  พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด (PF) : จะเล่นคล้ายกับเซนเตอร์ เวลาบุกจะหันหลังให้แป้น และเมื่อเล่นเกมรับ แบบ                                            แมน ทู แมน จะยื้นใต้ห่วง


        



  สมอฟอร์เวิร์ด (SF) : เป็นคนทำแต้มให้ทีม หรือ บางทีอาจจะได้เป็นคนรับผิดชอบการส่งบาสด้วย



   พอยต์การ์ด (PG) : ดูแลการบุกของทีมโดยควบคุมลูกและส่งลูก ไปยังผู้เล่นที่เหมาะสมในเวลาที่                                      เหมาะสม และ เป็นคนนำลูกไปยังฝ่ายตรงข้ามเมื่อเวลาบุก



   ชู้ตติ้งการ์ด (SG) : ชู้ตระยะไกลได้ดี และ สามารถทำคะแนนใกล้แป้นได้อีกด้วย


10 อันดับ นักบาสที่เก่งที่สุด

1.ดเวน เหว็ด (การ์ด : ไมอามี ฮีท)











ข้อมูลส่วนตัว 

ชื่อ : ดเวน เหว็ด 

วันเกิด : 17 มกราคม 1982 (อายุ 26 ปี)
สัญชาติ : อเมริกัน
ส่วนสูง : 6 ฟุต 4 นิ้ว (1.93 เมตร)
น้ำหนัก : 216 ปอนด์ (98 กิโลกรัม)
ลีกอาชีพ : เอ็นบีเอ
ทีมปัจจุบัน : ไมอามี่ ฮีท
เบอร์เสื้อ : 3
เล่นอาชีพ : ปี 2003-ปัจจุบัน

ประวัติความเป็นมา
ดเวน เหว็ด (Dwyane Wade) หรือชื่อเต็ม ดเวน ไทโรน เหว็ด จูเนียร์ (Dwyane Tyrone Wade, Jr.) เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1982 เป็นนักบาสเกตบอลชาวอเมริกันชื่อดังที่เล่นในลีกเอ็นบีเอ (NBA) มีฉายาว่า แฟลช (Flash) และ ดี-เหว็ด (D-Wade) ปัจจุบันเล่นอาชีพอยู่กับทีม ไมอามี ฮีท โดยเขาเคยได้รับนักกีฬายอดเยี่ยม จาก Sports Illustrated ซึ่งเป็นนิยสารกีฬาชื่อดังของสหรัฐฯ และ ผู้เล่นทรงคุณค่าของเอ็นบีเอรอบไฟนอล ในปี 2006 (NBA Finals MVP) อีกด้วย
เหว็ด ก้าวเข้าสู่วงการบาสเกตบอลเอ็นบีเอจากการดราฟฟ์เป็นอันดับ 5 ในปี 2003 และเขาก็สามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองจนกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมาที่สุดคนหนึ่งในศึกยัดห่วงเอ็นบีเอ็นทุกวันนี้ โดยเขามีชื่อติดทีมดาวรุ่งประจำฤดูกาลในซีซั่นแรกของตัวเอง รวมถึงติดทีม ออล-สตาร์ ในปีถัดมาอีกด้วย นอกจากนี้ เหว็ด ยังมีส่วนสำคัญที่นำทีม ไมอามี ฮีท คว้าแชมป์เอ็นบีเอ ได้สำเร็จในประวัติศาสตร์ หลังจากเล่นให้กับทีมเป็นฤดูกาลที่ 3 (ปี 2006) ด้วยการเอาชนะ ดัลลัส มาเวอริคส์ มาได้ในเกมรอบชิงชนะเลิศ

ตำแหน่งการเล่น
เหว็ด เล่นในตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ด แต่เขาก็สามารถเล่นในตำแหน่ง พอนต์ การ์ด ได้เช่นกัน ในเกมรุก เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความเร็วและยากที่จะป้องกันมากที่สุดในเอ็นบีเอ นอกจากนี้ เขายังแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ไม่เห็นแก่ตัวอีกด้วย โดยเขามีเปอร์เซ็นต์การแอสซิสเฉลี่ย 6.4 ครั้งต่อเกม ตลอดอาชีพนักยัดห่วง และหลังจาก เหว็ด ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำเกมนัดชิงชนะเลิศ ปี 2006 เขาก็พัฒนาฝีมือการเล่นจนเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองมากที่สุดในวงการเอ็นบีเอ
เดวิด ธอร์ป เทรนเนอร์ ซึ่งทำงานให้กับศูนย์การฝึกซ้อมของผู้เล่นเอ็นบีเอ ช่วงปิดฤดูกาล กล่าวชื่อชมพัฒนาการของ เหว็ด ว่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่ง สามารถเคลื่อนไหว และมีจังหวะการกระโดดชู้ตได้ดี นอกจากนี้ เขายังมีทีเด็ดอยู่ที่การเลย์-อัพที่เขาสามารถเบียดชนกับคู่ต่อสู้ที่ใหญ่กว่าขณะอยู่กลางอากาศได้ดี อย่างไรก็ตาม จุดด้อยของ เหว็ด คือ ความความพยายามในการชู้ต 3 คะแนน ที่ยังมีสถิติที่น้อยอยู่ เฉลี่ยที่ 0.251 เกมตลอดอาชีพของเขาที่ผ่านมา



รางวัลที่ได้รับ

แชมป์เอ็นบีเอ กับทีมไมอามี ฮีท: ปี 2006 

รางวัลเอ็มวีพีรอบไฟนอล: ปี 2006 

ได้รับเลือกเล่นในเกมออลสตาร์: ปี 2005, 2006, 2007,2008
ได้รับเลือกอยู่่ในทีมรวมออลสตาร์: ทีมที่ 2 (2005,2006), ทีมที่ 3 (2007)
ทีมรวมเกมรับ: ทีมที่ 2 (2005)
ได้รับเลือกอยู่ในทีมดาวรุ่งของเอ็นบีเอ: 2004
ได้รับเลือกอยู่ในทีมรวมออลสตาร์สกิลชาลเล้นจ์ แชมเปี้ยน: 2006, 2007
เหรียญทองแดงในกีฬาโอลิมปิก กับทีมชาติสหรัฐ ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ ปี 2004 
เหรียญทองแดงในฟีบาเวิร์ลแชมเปียนชิพ กับทีมชาติสหรัฐ ปี 2006
คว้าแชมป์ออลสตาร์สกิลชาลเล้นจ์ แชมเปี้ยน





2. เลบรอน เจมส์ (การ์ด : คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส)



ตำแหน่งสมอลฟอร์เวิร์ด
ฉายาKing James, The Heir Apparent, LBJ, The Chosen One
ความสูงฟุต 9 นิ้ว (2.07 )
น้ำหนัก240 ปอนด์ (109 กก.)
ทีมไมอามี ฮีต
สัญชาติFlag of the United States สหรัฐอเมริกา
วันเกิด30 ธันวาคม พ.ศ. 2527 (27 ปี)
อะครอน รัฐโอไฮโอ
ไฮสคูลSt. Vincent - St. Mary HS
Akron, Ohio
ดราฟท์ลำดับที่ 1, 2003
คลีฟแลนด์ คาวาเลียส์
เล่นระดับอาชีพ2003–ปัจจุบัน
รางวัล2003 Naismith Prep Player of the Year
2004 Rookie of the Year
2004 ESPY Best Breakthrough Athlete
ผู้เล่นทรงคุณค่าเกมรวมดาราเอ็นบีเอ 2006
เกมรวมดาราเอ็นบีเอ 3 ครั้ง
ได้เลือกเป็นออล-เอ็นบีเอ 2 ครั้ง
2005-06 The Sporting News NBA co-MVP




เจมส์ ถูกคัดเลือกเป็นคนแรกในดราฟปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) โดยทีมคลีฟแลนด์ คาวาเลียส์ เขาได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมากถึงกับได้เซ็นสัญญารองเท้ากับไนกี (Nike) มูลค่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐก่อนที่จะเล่นในเอ็นบีเอเกมแรกด้วยซ้ำ และเขาก็ไม่ทำให้แฟนผิดหวังเมื่อทำได้เฉลี่ยตลอดฤดูกาล 20.9 แต้ม 5.4 รีบาวด์ 5.9 แอสซิสต์ และได้รับรางวัลผู้เล่นใหม่ยอดเยี่ยม (Rookie of the Year) แต่ทีมก็ไม่ได้เข้าเล่นในเพลย์ออฟ
เลอบรอน เจมส์ เป็นเพื่อนสนิทกับ CARMELO ANTHONY จากทีม DENVER NUGGATS และ DWYANE WADE จากทีม MIAMA HEAT ปี พ.ศ. 2546 ช่วงหมดฤดูกาลเขาเข้าร่วมเล่นในทีมโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกาที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ จากทักษะที่ได้เรียนรู้ในฤดูกาลต่อมาเจมส์เป็นคนแรกที่ทำ 10 คะแนน 10 รีบาวด์ และ 10 แอสซิสต์ (หรือ ทริปเปิล-ดับเบิล) ในเกมที่อายุน้อยที่สุด และทำคะแนน 50 แต้มในเกมเดียวที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย แต่ทีมคาวาเลียส์ก็ยังเข้ารอบเพลย์ออฟไม่ได้
ในฤดูกาล 2005-06 คาวาเลียส์ได้ผู้เล่นใหม่มาเสริมทีมอาทิเช่น ลาร์รี ฮิวส์ (Larry Hughes) แฟนและนักข่าวต่างหวังว่าเจมส์จะสามารถนำทีมเข้าเพลย์ออฟได้ในปีนี้
ในฤดูกาล 2009-10ทีมคาวาเลียส์มีลุ้นได้แชมป์NBA PLAYOFF 2010 ซึ่งมีตัวเก่งอย่าง FORWARDดาวรุ่ง เจเจฮิกสัน PG mo wililem แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับคู่ปรับร่วมสายอย่าง บอสตันเซลติก
ฤดูกาล 2010- 2011 เลอบรอน เจมส์ หมดสัญญากับทีมคลีฟแลนด์ คาวาเลียส์ และได้เซ็นสัญญา 6 ปีกับทีม Miami Heat เช่นเดียวกับ Dwyane Wade และ Chris Bosh





3. โคบี้ ไบรอันท์ (การ์ด : แอลเอ เลเกอร์ส)


  




ตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ด
ฉายาBlack Mamba
ความสูงฟุต 6 นิ้ว (1.98 )
น้ำหนัก216 ปอนด์ (98 กก.)
สัญชาติFlag of the United States สหรัฐอเมริกา
วันเกิด23 สิงหาคม พ.ศ. 2521 (33 ปี)
ฟิลาเดลเฟียรัฐเพนซิลเวเนีย
มหาวิทยาลัยLower Merion HS
ดราฟท์ลำดับที่ 13, 1996
ทีมที่เคยเล่น
เล่นระดับอาชีพ1996–ปัจจุบัน
ทีมที่เคยเล่นลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ 1996-ปัจจุบัน
รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอ (2008)
ผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอรอบไฟนอล (2009)

      ผู้เล่นตำแหน่งการ์ดคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับเลือกเข้าสู่ NBA ตั้งแต่จบมัธยมปลาย ไบรอันต์ได้รับเลือกเป็นอันดับที่ 13 จากการดร๊าฟรอบแรกโดยทีม Charlotte Hornets ในปี 1996 อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของไบรอันต์ในขณะนั้นเห็นว่าโคบี้ไม่ควรจะเล่นให้กับทีมชาร์ล็อตต์ และชาร์ล็อตต์เองก็คิดที่จะแลกเปลี่ยนตัวผู้เล่นกับทีมเลเกอร์สอยู่แล้ว ก่อนหน้าการดร้าฟตัวผู้เล่นนั้น โคบี้มีโอกาสได้ร่วมฝึกซ้อมกับทีมในลอสแอนเจลิส ซึ่งเขาได้ต่อกรในสนามกับอดีตผู้เล่นของเลเกอร์ส คือ Larry Drew และ Michael Cooper จนสะดุดตา Jerry West ผู้จัดการทีมในขณะนั้น ในที่สุดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 1996 West ตัดสินใจแลกตัวผู้เล่นเซ็นเตอร์ตัวจริงของทีมเลเกอร์ส คือ Vlade Divac ไปให้ทีมฮอร์เน็ตส์ เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการดร้าฟตัวไบรอันท์ และเนื่องจากโคบี้เพิ่งอายุได้ 17 ปี พ่อแม่ของเขาต้องร่วมเซ็นสัญญากับเลเกอร์ส จนกระทั่งโคบี้สามารถเซ็นสัญญาเองได้เมื่ออายุครบ 18 ปี ก่อนจะเปิดฤดูกาล






4. เดิร์ค โนวิตซกี้ (ฟอร์เวิร์ด : ดัลลัส แมฟเวอริกส์)






หลายคนอาจจะรู้จักผู้เล่นรายนี้ดี ขณะที่บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อทางช่องข่าวกีฬาชื่อดังมาบ่อยครั้ง แต่ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่รู้ว่า เดิร์ก โนวิทซกี้ เจ้าของฉายา " มิสเตอร์ เพอร์เฟ็ค "  คือใคร? วันนีผมจะมาแนะนำผู้เล่นรายนี้ที่โดดเด่นเหลือเกินกับการพา ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ โค่นทีมเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์ NBA อย่าง ไมอามี่ ฮีต ด้วยฟอร์มที่สุดยอดซิวแหวนแชมป์มาประดับนิ้วได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของทั้งสโมสรและเจ้าตัวเอง
      เดิร์ก โนวิทซกี้ เจ้าของส่วนสูง 7 ฟุต ( ประมาณ 210 ซม. ) เล่นตำแหน่งเพาเวอร์ฟอร์เวิร์ดและเซ็นเตอร์ เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ปี ค.ศ. 1978 ที่เมือง เวอร์ซบูร์ก ประเทศเยอรมนี เจ้าตัวเริ่มเล่นบาสอาชีพมาตั้งแต่ปี 1994 ที่ยุโรป และถูกดร๊าฟมาเล่นในเอ็นบีเอครั้งแรกในปี 1998 โดยถูกเลือกเป็นอันดับ 9 ในรอบแรกจากทีม มิลว็อคกี้ บัคส์ แต่ก็โดนเทรดไปให้ทีม ดัลลัส ต้นสังกัดปัจจุบันทีมที่ต้องการตัวเขาอย่างแท้จริง
      ฟอร์เวิร์ดเยอรมันคนนี้เป็นผู้เล่นตัวใหญ่เล่นได้ทั้งใต้แป้นและวงนอก ความแม่นถือเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของเสื้อเบอร์ 41  เดิร์ก ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ครบเครื่องที่สุดจนได้รับการตั้งฉายาว่า " มิสเตอร์ เพอร์เฟ็ค " เขากวาดรางวัลส่วนตัวมาแล้วมากมาย ที่สำคัญคือการได้รับเลือกเป็นผู้เล่นออลสตาร์ 10 สมัยซ้อน , แชมป์ยิงสามแต้มในปี 2006 , ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของฟีบาในรายการบาสชิงแชมป์โลกปี 2002 , ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ในรายการยูโรลีกปี 2005 และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการคว้า MVP ของฤดูกาลปกติในศึกเอ็นบีเอ ลีกที่ได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลกมาครองในปี 2007 และ MVP ในรอบชิงฯฤดูกาล 2010/ 2011
     
       ปัจจุบัน เดิร์ก อายุ 33 ปีถือเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆของโลกบาสเก็ตบอล ปัจจุบันรับค่าเหนื่อย 19 ล้านเหรียญต่อปี มีดีกรีความสำเร็จส่วนตัวเทียบเท่า เควิน การ์เน็ตต์ ของ บอสตัน , ทิม ดันแค็น ของ สเปอร์ส , สตีฟ แนช ของ ซันส์ และ โคบี้ ไบรอันท์ ของ แอลเอ เลเกอร์ส
       เดิร์ก โนวิทซกี้  เป็นที่รักของแฟนๆเมือง ดัลลัส มากและเมื่อเจ้าตัวมีบทบาทสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์เอ็นบีเอมาครองได้เป็นสมัยแรกทั้งๆที่มีอาการบาดเจ็บที่ข้อนิ้วซึ่งเป็นที่มาของอีก 1 ฉายา " เดิร์ก 9 นิ้ว " และ อาการป่วยรบกวนในรอบชิงฯ ก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวกลายเป็นตำนานแห่งเมือง ดัลลัส ไปอีกคนอย่างไม่ต้องสงสัย




5. สตีฟ แนช (การ์ด : ฟีนิกซ์ ซันส์)




สตีฟ แนช พอยท์การ์ดดีกรีออลสตาร์ ของ ฟินิกซ์ ซันส์ ส่งถ้อยแถลงยืนยันว่า เขาเตรียมแยกทางกับ ซันส์ หลังจากคุยกับเจ้าของทีมแล้ว โดยมี ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส รอปูพรมแดงรับตัว ด้วยสัญญาตามข่าว 3 ปี มูลค่าร่วม 27 ล้านดอลล่าร์ (ราว 810 ล้านบาท)


สตีฟ แนช พอยท์การ์ดจอมเก๋าชาวแคนาเดี้ยน ของ ฟินิกซ์ ซันส์ ทีมในศึกยัดห่วงเอ็นบีเอ สหรัฐฯ ออกถ้อยแถลงยืนยันการแยกทางกับต้นสังกัดที่อยู่ร่วมหัวจมท้ายกันมานาน 8 ปี และเผยความปรารถนาว่า ต้องการเทรดไปยัง ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส ทีมที่มี โคบี้ ไบรอันท์ เป็นซูเปอร์สตาร์ ซึ่งข่าวระบุ แนช จะเซ็นสัญญาระยะเวลา 3 ปี มูลค่ากว่า 27 ล้านดอลล่าร์ (ราว 810 ล้านบาท)    
แนช เป็นผู้เล่นฟรีเอเยนต์ และมีแววแล้วว่าเขาได้เลือก เลเกอร์ส โดยการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการจะต้องรอวันที่ 11 ก.ค. เสียก่อน แต่ก็มีกระแสข่าวระบุถึงเนื้อหารายละเอียดของสัญญานี้แล้ว คือ ระยะเวลา 3 ปี มูลค่าเกือบ 27 ล้านดอลล่าร์ โดยจะเป็นการเซ็นสัญญาแล้วเทรดจาก ซันส์ ซึ่งทาง เลเกอร์ส จะส่งสิทธิดราฟท์ 4 ครั้งให้ ซันส์ เป็นการแลกเปลี่ยน แบ่งเป็นดราฟท์รอบแรกปี 2013, 2015 และ ดราฟท์รอบสองปี 2014 และ 2015
การ์ดขวัญใจแฟนยัดห่วง วัย 38 ปี บอกว่า เขาตัดสินใจหลังจากได้คุยกับ โรเบิร์ต ซาร์เวอร์ เจ้าของทีมซันส์ และ ลอน แบ็บบี้ ประธานฝ่ายบาสเกตบอล แล้ว "หลังจากได้คุยกับ โรเบิร์ต กับ ลอน แล้ว เรามีความเห็นตรงกันว่า ถึงเวลาที่เราทั้งสองฝ่ายจะต้องเดินไปยังทิศทางใหม่ๆ ผมติดต่อพวกเขา และถามพวกเขาไปว่า ยินดีทำข้อตกลง - เซ็นสัญญาแล้วเทรด - กับทาง แอลเอ หรือไม่ ผมรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณขององค์กร และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรเบิร์ต อย่างที่สุด"
อดีตผู้เล่นเอ็มวีพี 2 สมัย (2005, 2006) พา ซันส์ เข้าถึงรอบชิงแชมป์สายตะวันตก ได้ถึง 3 ครั้ง (ใน 8 ปีของเขา) แต่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟ ตลอด 2 ซีซั่นที่ผ่านมา โดยซีซั่นที่แล้ว เขาทำผลงานเฉลี่ย 12.5 แต้ม และ 10.7 แอสซิสต์ แถมมีเปอร์เซนต์ชู้ตลงสูงถึง 53 เปอร์เซ็นต์ และการเป็นฟรีเอเยนต์ทำให้เขาเนื้อหอม มีทีมดังๆ รุมตอมเพียบ ทั้ง นิวยอร์ก นิกส์, ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ และ โตรอนโต้ แร็พเตอร์ส 




6. ทิม ดันแค่น (ฟอร์เวิร์ด : ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส)



 ทิม ดันแคน ฟอร์เวิร์ดตัวเก๋า ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส เชื่อจะอาศัยความเก๋าบุกไปเอาตัวรอดจากเงื้อมือ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ในเกม 6 เพลย์ออฟฝั่งตะวันตก เช้าวันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายนนี้ เพื่อต่ออายุอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2011/12 ต่อไป
       
        ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส อยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา ตามซีรีส์รอบชิงเวสต์เทิร์น คอนเฟอเรนซ์ 2-3 เกม หลังโดน โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ รัวคืนสามเกมติด พร้อมกับหยุดสถิติลูกทีม เกร็ก โพโพวิช ที่เดินหน้าคว้าชัยเป็นสถิติ NBA 20 เกมติดต่อกัน โดยเกมที่ 6 จะมีขึ้นที่เอเนอร์จี อารีนา คืนวันพุธที่จะถึงนี้ตามวัน-เวลาท้องถิ่น
       
        ซึ่ง ทิม ดันแคน พยายามกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมสเปอร์ส ก่อนเกมตัดสินอนาคตว่า “ผมพร้อมลงสนามแล้ว ณ บัดนี้ ผมเชื่อว่า เราสามารถคว้าชัยชนะได้ เชื่อว่า ทีมจะเดินหน้าไปในสิ่งที่ถูกที่ควร มีทัศนคติในการบุกเอาชนะนอกบ้าน โดยเราเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ผมคิดว่ามันน่าเสียใจและคงผิดหวังกันมากหากเราจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ทั้งนี้ มันน่าตื่นเต้นที่จะได้ออกไปลุยกับพวกนั้น (โอเคซี) อีกครั้ง”
       
        ด้าน สตีเฟน แจ็คสัน หนึ่งในตัวเก๋าที่เคยเป็นหนึ่งในขุนพลสเปอร์ส ชุดแชมป์เมื่อปี 2003 เผยบ้าง “ผมสามารถลงช่วยทีมได้ตลอดทั้งเกม ก่อนมาที่นี่ (แจ็คสัน เพิ่งย้ายมาจาก มิลวอล์คกี บัคส์ สู่ถิ่นเก่าอีกครั้ง) ผมเป็นพวกตัวทีเด็ดช่วงท้ายๆ คุณรู้ว่าผมสามารถทำอะไรได้ เราจะลงไปชนะเกมนี้กัน อย่างไรก็ตาม พวกนั้น (โอเคซี) เป็นทีมหนุ่มที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเราคงต้องออกไปเล่นกันให้ดี”




7. อัลเลน ไอเวอร์สัน (การ์ด : ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส)






ตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ดพอยท์การ์ด
ฉายาเอ.ไอ., ดิแอนเซอร์
ความสูงฟุต 0 นิ้ว (1.83 )
น้ำหนัก165 ปอนด์ (75 กก.)
ทีมเดนเวอร์ นักเก็ตส์
สัญชาติFlag of the United States สหรัฐอเมริกา
วันเกิด7 มิถุนายน พ.ศ. 2518 (37 ปี)
แฮมป์ตัน รัฐเวอร์จิเนีย
มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์
ดราฟท์ลำดับที่ 1, 1996
ฟิลลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอรส์
เล่นระดับอาชีพ1996 –ปัจจุบัน
ทีมที่เคยเล่นฟิลลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอรส์ (1996-2006)
รางวัล

  • Big East Rookie Of The Year - NCAA
  • Big East Defensive Player Of The Year - NCAA (1996)
  • NBA Rookie of the Year(1997)
  • All-Star Rookie Game Most Valuable Player(1997)
  • ได้รับเลือกเป็น All Rookie First Team (1997)
  • รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอ (2001)
  • รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอเกมรวมดารา (2001, 2005)
  • แชมป์ทำคะแนนในเอ็นบีเอ 4 สมัย
  • ได้รับเลือกเป็น All NBA First Team 3 ครั้ง
  • ได้รับเลือกเป็น All NBA Second Team 3 ครั้ง
  • แชมป์สตีลเอ็นบีเอ 3 สมัย
  • เล่นเกมรวมดารา 9 ครั้ง (ไม่ได้เล่นหนึ่งครั้งเนื่องจากบาดเจ็บ)
  • กับตันทีมชาติบาสเกตบอลสหรัฐอเมริกา (2004)





8. เควิน การ์เน็ตต์ (ฟอร์เวิร์ด : มินเเบอร์วูล์ฟส)




ตำแหน่งเพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด
ฉายาเดอบิกทิกเก็ต, เดอคิด, เคจี
ความสูงฟุต 11 นิ้ว (2.11 )
น้ำหนัก253 ปอนด์ (115 กก.)
ทีมบอสตัน เซลติกส์
สัญชาติFlag of the United States สหรัฐอเมริกา
วันเกิด19 พฤษภาคม พ.ศ. 2519 (36 ปี)
มอลดิน รัฐเซาท์แคโรไลนา
ดราฟท์ลำดับที่ 5, 1995
มินนิโซตา ทิมเบอร์วูฟส์
เล่นระดับอาชีพ1995–ปัจจุบัน
ทีมที่เคยเล่นมินนิโซตา ทิมเบอร์วูฟส์ 1995-2007
รางวัล2003-04 ผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอ
เหรียญทอง โอลิมปิก 2000
2003 ผู้เล่นทรงคุณค่าในเกมรวมดาราเอ็นบีเอ

ผลงาน


  • แชมป์เอ็นบีเอ พ.ศ. 2551
  • ผู้เล่นทรงคุณค่าในเอ็นบีเอ ปี พ.ศ. 2547
  • ผู้เล่นทีมรับแห่งปี พ.ศ. 2551
  • เหรียญทองโอลิมปิก พ.ศ. 2543
  • เล่นในเกมออลสตาร์ ปี พ.ศ. 2540, 2541, 2543, 2544, 2545, 2546, 2547, 2548, 2549, 2550, 2551 (ไม่มีการจัดเกมออลสตาร์ในปี พ.ศ. 2542)
  • ผู้เล่นทรงคุณค่าในเกมออลสตาร์ ปี พ.ศ. 2546
  • ได้รับเลือกเป็น ออล-เอ็นบีเอ
    • ทีมแรก 2543, 2546, 2547, 2551
    • ทีมที่สอง 2544, 2545, 2548
    • ทีมที่สาม 2542, 2550
  • ได้รับเลือกเป็น All-Defensive
    • ทีมแรก 2543, 2544, 2545, 2546, 2547, 2548, 2551
    • ทีมที่สอง 2549, 2550
  • ได้รับเลือกเป็น All-Rookie ทีมที่สอง 2539
  • ทำรีบาวด์เฉลี่ยต่อเกมสูงสุดในเอ็นบีเอในฤดูกาลปกติ 2547 (13.9 รีบาวด์ต่อเกม), 2548 (13.5 รีบาวด์ต่อเกม), 2549 (12.7 รีบาวด์ต่อเกม), 2550 (12.8 รีบาวด์ต่อเกม)
  • ทำรีบาวด์รวมสูงสุดในเอ็นบีเอ 2547 (1139 รีบาวด์), 2548 (1108 รีบาวด์)
  • ทำคะแนนรวมสูงสุดในเอ็นบีเอ 2547 (1987 คะแนน)
  • ผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอที่
    • เฉลี่ยอย่างน้อย 20 คะแนน 10 รีบาวด์ 5 แอสซิสต์ ต่อเกม ติดต่อกัน 6 ฤดูกาล (1999-2005)
    • เฉลี่ยอย่างน้อย 20 คะแนน 10 รีบาวด์ 4 แอสซิสต์ ต่อเกม ติดต่อกัน 9 ฤดูกาล (1998-2007)
    • ได้อย่างน้อย 20,000 คะแนน 11,000 รีบาวด์ 4,000 แอสซิสต์ 1,200 สตีล 1,500 บล็อกตลอดการเล่นอาชีพ



9. กิลเบิร์ต อารีนาส (การ์ด : วอชิงตัน วิซาร์ดส)






กิลเบิร์ต อารีนาส ติดท็อปไฟฟ์ในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นการทำแต้ม การขโมยบอล เปอร์เซ็นต์ชู้ตลูกโทษ หรือว่าเวลาเฉลี่ยในการลงสนาม อารีนาส ขับเคี่ยวกับ เลบรอน เจมส์ ได้อย่างน่าดูชม เขามีแรงจูงใจในการเล่นกีฬา และเมื่อไหร่ก็ตามที่ติดเครื่องก็พร้อมจะทำแต้มใส่คู่แข่งเป็นชุดๆ




10. คาร์เมโล่ แอนโธนี่ย์ (ฟอร์เวิร์ด : เดนเวอร์ นักเก็ตส์)





ดูเหมือนว่า เมโล่ จะดีกว่าเมื่อฤดูกาลก่อน เขาดีขึ้นแน่นอนในฤดูกาล 2006/07 ด้วยความเฉียบขาด คาร์เมโล่ แอนโธนี่ย์ น่าจะเล่นเกมรุกมากกว่าที่ผ่านๆ มา ครั้งหนึ่ง “โค้ชเค” ไมค์ ครายเซว์สกี้ หัวหน้าโค้ชทีมชาติสหรัฐอเมริกา ยังเอ่ยปากว่าทีมขาดนักบาสเกตบอลคนนี้ไม่ได้เหมือนกัน

เทคนิคการเล่น

      กีฬาบาสเกตบอลมีทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับลูกบอล ได้แก่

1) การเลี้ยงบอล (Dribbling)

2) การส่งบอล (Passing)

3) การยิงประตู (Shooting)
 

  การเลี้ยงบอล ( Dribbling )
ขณะเลี้ยงบอลผู้เล่นควรนำลูกบอลไปไว้ด้านข้างลำตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการป้องกันหรือการเข้าแย่งของฝ่ายตรงข้าม
วิธีเลี้ยงบอล ควรใช้นิ้วกดลงที่ลูกบอลอาจช่วยส่งแรง และควรฝึกหัดการใช้มือทั้งสองข้างช่วยในการเลี้ยงบอล สิ่งสำคัญของการเลี้ยงบอล คือ ไม่ควรมองลูกบอลที่ตนเองกำลังเลี้ยงอยู่ ให้มองผู้เล่นหรือทิศทางในสนาม
อย่างแรกเรามาฝึกการเลี้ยงบอลดีกว่า
 
   The Crossover Dribbling
ควรเลี้ยงบอลสลับซ้าย-ขวา เพื่อหลีกเลี่ยงและหลบหลีกการแย่งหรือการปัดจากฝ่ายตรงข้าม (ท่านี้NBAใช้เยอะมากและมีผลประโยชน์ด้วย)


 
  การเลี้ยงบอลไขว้หลัง  The Behind-the-Back Dribble 
เป็นวิธีการเลี้ยงบอลเพื่อต้องการหลอกล่อฝ่ายตรงข้ามให้เสียจังหวะเพื่อชิงพื้นที่ หรือตำแหน่งในการเปลี่ยนทิศทาง เป็นการใช้มือออกแรงกดและผลักลูกบอลจากด้านหลังไปด้านหน้าอีกข้างหนึ่ง เป็นลักษณะของการไขว้สลับด้านหลัง



Spin move
เทคนิคการหมุนตัวแบบ สปินมูฟ <spin move> ช่วยในการหลบหลีกฝ่ายตรงข้ามขณะเลี้ยงบอลอยู่


 

 
การส่งบอล ( Passing )
การจ่ายบอลหรือการส่งบอล มีความสำคัญต่อการลื่นไหลและความต่อเนื่องของเกมการแข่งขัน โดยเฉพาะถ้าทีมที่ลงเล่น สามารถจ่ายบอลกันอย่างเข้าขาแล้ว จะทำให้ทีมบุกมีประสิทธิภาพมาก





การทำแต้ม (Shooting)
The Lay-up Shot 
ผู้เล่นควรฝึกการยิงประตูลักษณะนี้เป็นอันดับแรก การยิงประตูลักษณะนี้เป็นการพาลูกบอลเคลื่อนที่ซึ่งใช้แรงส่งจากจังหวะการก้าวและกระโดดลอยตัวยกมืองอเข่า และปล่อยลูกบอลกระทบกระดานหลัง


 
 
   การกระโดดชู๊ต  The Jump Shot 
เป็นลักษณะการยิงประตูที่มักพบมากระหว่างการแข่งขัน เนื่องจากยากต่อการป้องกัน โดยเฉพาะหากผู้เล่นยิงประตูมีความสูง


 
  Fade Away
การเล่นแบบ fade away ผู้เล่นจะต้องฝึกกระโดดชู๊ตให้แม่นก่อน ยิ่งกระโดดชู๊ตได้ดีเท่าไร fade away ก็ยิ่งได้ผลมากตามไปด้วย


 
 
Reverse Layup
ท่านี้เป็นท่าสุดท้ายที่ควรฝึก แต่ผมว่าท่านี้ ต้องใช้เวลาฝึกหน่อย ถ้าใครเล่นเก่งก้อคงไม่นานเหมาะสำหรับมืออาชีพ อยากจะบอกว่าท่า โครตชอบ- -''